เทคนิคสำหรับผู้ดูแล ผู้สูงอายุ

การมองเห็น

ผู้สูงอายุจะมีการมองเห็นที่ลดลง เนื่องจากสายตาที่ยาวขึ้น

ความสำคัญของผู้ดูแลคือ ปัญหาสายตาที่ทำให้การมองเห็นแย่ลง ทำให้มีโอกาสหกล้มมากขึ้น ดังนั้นการจัดวางแว่นตาให้หยิบใส่ได้สะดวก หรือ การจัดความสว่างของแสงไฟให้เหมาะสม จะช่วยลดความเสี่ยงในการหกล้มได้

การได้ยิน

การได้ยินจะลดลงเรื่อยๆ สิ่งที่น่าสนใจคือความสามารถได้ยินเสียงสูงๆ จะลดลง ดังนั้นการสื่อสารกับผู้สูงอายุควรใช้เสียงต่ำ ในการพูดคุย การเร่งเสียงตะโกนจะทำให้เสียงสูงขึ้นและการได้ยินยากขึ้น

เกร็ดความรู้สำหรับผู้ดูแล

พูดกับผู้สูงอายุด้วยเสียงต่ำ

พูดช้าๆ เว้นวรรคให้ชัดเจน

การพูดโดยให้ผู้สูงอายุเห็นปาก และสบตาจะทำให้การเข้าใจดีขึ้น

กล้ามเนื้อ

ถ้าผู้สุงอายุนอนติดเตียงเป็นเวลานานกว่า 1 วัน กล้ามเนื้อจะมีการฝ่อตัวลงทันที ทำให้หลายครั้งเราจะพบว่าผู้สูงอายุที่เข้าโรงพยาบาล 1 สัปดาห์หากไม่ได้กายภาพ หรือเคลื่อนไหวเลย หลายครั้งทำให้ผู้สูงอายุอ่อนแรงกลายเป็นคนติดเตียงทันที

เกร็ดความรู้สำหรับผู้ดูแล

เราควรรักษามวลกล้ามเนื้อของผู้สูงอายุ ควรกระตุ้นให้ผู้สูงอายุมีกิจกรรมเคลื่อนที่ และใช้กล้ามเนื้อ

หากผู้สูงอายุไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้ ควรทำกายภาพพื้นฐาน เพื่อรักษามวลกล้ามเนื้อ

การรับประทานอาหารที่มีโปรตีน ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นเช่นกัน

กระดูก

ความหนาแน่นของกระดูกจะเพิ่มขึ้นสูงสุดประมาณอายุ 30 ปี จากนั้นจะค่อยๆ ลดลง ในผู้หญิงหลังวัยหมดประจำเดือน มวลกระดูกจะลดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้หญิงมีความเสี่ยงในการเกิดภาวะกระดูกพรุนสูงกว่าผู้ชาย

เกร็ดความรู้สำหรับผู้ดูแล

กระดูกพรุนทำให้การหกล้ม หรือกระแทกทำให้ผู้สูงอายุมีโอกาสเกิดกระดูกหักได้สูง ดังนั้นผู้ดูแลต้องคิดในใจเสมอว่าผู้สูงอายุทุกคนมีภาวะกระดูกพรุน

ผู้สูงอายุอาจมีส่วนสูงที่ลดลงจากกระดูกที่ทรุดตัว

หัวใจ

การบีบตัวของหัวใจเพื่อส่งเลือดไปเลี้ยงร่างกายจะลดลง ทำให้ผู้สูงอายุเหนื่อยได้ง่ายกว่าปกติ และในกรณีมีการเปลี่ยนท่าอย่างรวดเร็ว เช่นการลุกขึ้นยืนจากท่านั่งเร็วๆ อาจทำให้เกิดอาการหน้ามืดเนื่องจากเลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอได้

หลอดเลือดหัวใจก็มีการหนาตัวมากขึ้นจากการสะสมไขมัน ทำให้มีโอกาสตีบตันได้ง่ายขึ้น

เกร็ดความรู้สำหรับผู้ดูแล

ผู้ดูแลควรให้ผู้สูงอายุมีการเปลี่ยนแปลงอริยาบทอย่างช้าๆ เพื่อให้หัวใจสามารถทำงานบีบเลือดไปเลี้ยงทั่วร่างกายได้เพียงพอ

อาการเจ็บแน่นหน้าอกในผู้สูงอายุ ผู้ดูแลจะต้องระวังไว้เสมอว่าอาจเป็นอาการแสดงของภาวะโรคหัวใจ

ผิวหนัง

ต่อมเหงื่อของผู้สูงอายุจะฝ่อลดลง ทำให้ผิวแห้งได้ง่าย ทำให้เกิดอาการคันได้

ผิวหนังจะบางลงทำให้เกิดแผลหรือจ้ำเลือดได้ง่าย

เกร็ดสำหรับผู้ดูแล

ควรทาโลชั่น หรือครีมบำรุงเพื่อรักษาความชุ่มชื้นไม่ให้ผิวแห้ง

การเคลื่อนย้ายผู้สูงอายุต้องระวังการเสียดสีที่ผิวหนัง เพราะอาจทำให้เกิดแผล และนำไปสู่การติดเชื้อได้

ระบบการหายใจ

เยื่อบุท่ทำหน้าที่ดักจับเชื้อโรคมีจำนวนน้อยลง ทำให้มีโอกาสติดเชื้อที่ปอดได้ง่ายขึ้น

ความจุปอดลดลง ทำให้มีอาการเหนื่อยได้ง่ายขึ้น

ระบบทางเดินอาหาร

ต่อมรับรสชาติของอาหารลดลง ต่อมน้ำลายลดลง ทำให้ผู้สูงอายุปากคอแห้งและรับรสชาติได้ไม่ดี ทำให้ความอยากอาหารลดลง เคี้ยวอาหารได้ไม่ดี

กระเพาะอาหารบีบไล่อาหารได้ช้าลง ทำให้อิ่มง่าย ท้องอืดเฟ้อได้ง่าย

ระบบทางเดินปัสสวะ

สำหรับชายสูงอายุมีต่อมลูกหมากโตขึ้น ทำให้ปัสสวะไม่ค่อยพุ่ง ต้องเบ่งนาน และรู้สึกขัดเวลาปัสสวะ

ตื่นมาปัสสวะตอนกลางคืน เพราะความจุของกระเพาะปัสสวะลดลง

เกร็ดสำหรับผู้ดูแล

ต้องจำกัดน้ำก่อนเวลาเข้านอน เพราะการที่ต้องตื่นบ่ายจะทำให้คุณภาพในการนอนลดลง

ระบบประสาท

ความสามารถในการจำเหตุการณ์ที่พึ่งเกิดขึ้นไม่นานลดลง และมีความคิดช้าลง แต่ไม่รบกวนกิจวัตรชีวิตประจำวัน

เกร็ดสำหรับผู้ดูแล

ในกรณีที่การลืมมีผลกระทบต่อการดำเนินชีวิต หรือ มีพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรง ควรไปพบแพทย์เพราะอาจมีภาวะสมองเสื่อม

ระบบภูมิคุ้มกัน

ภูมิคุ้มกันของผู้สูงอายุจะต่ำลง สามารถป้องกันเชื้อโรคได้ลดลง

เกร็ดสำหรับผู้ดูแล

ผู้ดูแลควรฉีดวัคซีน และ รักษาสุขภาพให้แข็งแรง ไม่เป็นแหล่งแพร่เชื้อให้ผู้สูงอายุ

ขอบคุณข้อมูลจาก health at home